วันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2555

ล่องแก่งน้ำว้าตอนกลาง จ.น่าน

ที่สุดในเมืองไทย สุดยอดผจญภัย
ลำน้ำว้าท้าทายนักผจญภัยให้ไปสัมผัสผืนป่ากว้างใหญ่ ลำน้ำสวยใส
เหลือแต่ใจว่า คุณพร้อมหรือไม่ เพราะแก่งที่นี่ได้ชื่อว่าโหดสุดๆ แห่งหนึ่งของเมืองไทย

จากยอดภูแวสูงใหญ่ และผืนป่าดิบตอนบนของจังหวัดน่าน นั่นคือต้นกำเนิดของแม่น้ำว้า ต้นน้ำสำคัญสายหนึ่งของแม่น้ำน่าน สายน้ำแห่งนี้มีเรื่องราวผจญภัยให้ผู้คนร่วมกันบันทึก

ความทรงจำ นั่นคือ การล่องแก่งน้ำว้าที่ได้ชื่อว่า แก่งโหดสุดในเมืองไทย จากบ้านสบมาง อำเภอบ่อเกลือ ระยะทาง 100 กิโลเมตร ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน นี่คือสุดยอดความประทับใจที่คุณจะไม่มีวันลืมในชีวิต

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ช่วงเช้าและบ่ายในแต่ละวัน
ฤดูกาลที่ดีที่สุด: เดือนตุลาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด: แก่งผีป่า ผารถเมล์



เส้นทางการเดินทางจาก จ.น่าน ใช้ทางหลวงหมายเลข 1169 และ 1081 ถึงบ้านนาขวางมีทางแยกขวาไปบ้านสบมาง จุดเริ่มต้นล่องแก่งน้ำว้าตอนกลาง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ติดต่อที่ ททท.สำนักงานแพร่
โทร. 054 521 118-9, 054 521 127


วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ออกกำลังกายให้ใบหน้า


ออกกำลังกายให้ใบหน้า
6 วิธี บริหารใบหน้า กระชับ อ่อนเยาว์ สวย!
1.ให้หน้าเรียวขึ้น
อ้าปากแล้วห่อริมฝีปากคร่อมฟันหน้าไว้ ดึงมุมปากไปทางฟันหลังและห่อปากให้แน่น ทีนี้ให้นึกภาพซีกหน้าด้านข้างของคุณเคลื่อนช้าๆ ผ่านขากรรไกรขึ้นไปข้างบนศีรษะ พยายามดันพลังที่อยู่ในจิตนี้ไปตามใบหน้าด้านข้างกระทั่งรู้สึกถึงความร้อนผ่าว ค้างไว้ในท่านี้ขณะนับ 1-30 จากนั้นทำตัวตามสบาย ทำซ้ำวันละ 2 ครั้ง
2.กระชับคางและคอ
นั่งตัวตรงเชิดคางสูง หุบปากให้สนิทและฉีกยิ้ม วางมือลงตรงฐานลำคอเหนือไหปลาร้าทั้งสองข้างแล้วดึงผิวหนังลำคอเบาๆ เอนศีรษะไปข้างหลังปล่อยคอตามสบายคุณจะรู้สึกได้ว่ากล้ามเนื้อคางและลำคอถูกรั้ง เอนศีรษะกลับสู่จุดเดิม ทำท่านี้ 35 ครั้ง จะช่วยให้ลำคอกระชับไม่เหี่ยวย่น "การลดน้ำหนักก็ส่งผลเสียต่อผิวเช่นกัน หากคุณอายุ 40 ปีขึ้นไป และลดน้ำหนัก 6-12 กิโลกรัมขึ้นไป คุณจะเห็นรอยย่นที่คอของตัวเองอย่างชัดเจน เช่นเดียวกับแรงโน้มถ่วงที่มีผลทำให้ผิวหย่อนยาน"
3.กระชับขากรรไกร
ฉีกยิ้มให้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้คล้ายการแสยะยิ้ม หงายศีรษะไปด้านหลังขณะที่ยังฉีกยิ้มอยู่ ค่อยเปิดปากและปิดปากช้าๆ 3 ครั้ง รับรองเห็นผลและช่วยกระชับขากรรไกรไม่ให้หย่อนยาน
4.กระชับเปลือกตาหย่อนยาน
ท่านี้ทำได้ทั้งตอนนั่งหรือนอนราบ วางนิ้วชี้ทั้งสองกดบนหน้าผากบริเวณเหนือคิ้ว ขณะทำให้เลิกคิ้วขึ้น จากนั้นลดคิ้วลง ทำซ้ำ 10 ครั้ง จากนั้นให้เลิกคิ้วขึ้นค้างไว้ ขณะที่นิ้วชี้ทั้งสองก็ยังกดบนหน้าผากอยู่ ทำค้างไว้นับ 1-30 จากนั้นลดคิ้วลงและเอามือออก ใช้นิ้วนวดวนบริเวณหน้าผากเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
5.กระชับรอยย่นที่หน้าผาก
หลับตาและหายใจเข้าลึกๆ ผ่อนคลายหน้าผากโดยทำคิ้วต่ำๆ เอามือข้างหนึ่งวางทับบนมืออีกข้าง เอานิ้วมือสอดเข้าหากัน ใช้ปลายนิ้วนวดเบาๆ จากบนคิ้วขึ้นไปหาเนินผม หายใจเข้าลึกๆ ขณะหายใจออก ให้ใช้นิ้วค่อย ๆ นวดคลึงตามรอยย่นจากกลางหน้าผากออกไปหาขมับทำซ้ำช้าๆ 7 ครั้ง
6.กระชับแก้มหลับตาและหายใจเข้าลึกๆ ผ่อนคลายหน้าผากโดยทำคิ้วต่ำๆ เอามือข้างหนึ่งวางทับบนมืออีกข้าง เอานิ้วมือสอดเข้าหากัน ใช้ปลายนิ้วนวดเบาๆ จากบนคิ้วขึ้นไปหาเนินผม หายใจเข้าลึกๆ ขณะหายใจออก ให้ใช้นิ้วค่อย ๆ นวดคลึงตามรอยย่นจากกลางหน้าผากออกไปหาขมับทำซ้ำช้าๆ 7 ครั้ง

วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2555





นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ของไทย ติดโผอันดับที่ 30 สตรีผู้ทรงอิทธิพลของโลกประจำปี 2012 ขณะที่อันดับ 1 เป็นเจ้าเก่า อังแกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี

นิตยสารฟอร์บส์ จัดอันดับสตรีที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลก ประจำปี 2012 (The World's 100 Most Powerful Women) จำนวน 100 อันดับ มีชื่อของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ติดอันดับที่ 30 ในการจัดอันดับครั้งนี้ด้วย อันดับขยับสูงขึ้นกว่าปีที่แล้วที่รั้งอันดับ 59 นิตยสารฟอร์บส์กล่าวถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าปัจจุบัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ อายุ 45 ปี สมรสแล้วกับนายอนุสรณ์ อมรฉัตร มีบุตรชาย 1 คน เธอเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย หลังจากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งในปีที่แล้ว โดยนโยบายสำคัญที่เธอประกาศไว้ช่วงหาเสียงคือ การปรับค่าจ้างขั้นต่ำและปรับฐานเงินเดือนของผู้จบปริญญาตรี พร้อมกับปฏิญาณจะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น

ขณะที่ชื่อของสตรีที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลกประจำปีนี้ ได้แก่ นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี อันดับ 2 ได้แก่ นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ อันดับ 3 ดิลมา รุสเซฟประธานาธิบดีบราซิล สตรีคนดังคนอื่นๆ ที่ติดโผในการจัดอันดับปีนี้ อาทิ มิเชล โอบามา สตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐ รั้งอันดับ 7 คริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) อยู่อันดับ 8 โอปราห์ วินฟรีย์ พิธีกรชื่อดัง อันดับ 11 เลดี้ กาก้า ศิลปินสาวชื่อก้องอยู่อันดับ 14 และ ออง ซาน ซูจี แกนนำฝ่ายค้านพม่า รั้งอันดับที่ 19 - สำนักข่าวไทย

วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สกุลเงินประจำชาตสมาชิกประเทศอาเซียน

สกุลเงินของประเทศอินโดนีเซียเป็นสกุลเงิน
รูเปียห์ (Rupiah) 

อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐเท่ากับประมาณ 8,900 - 9,030 รูเปียห์
สกุลเงินรูเปียห์ (Rupiah) 1,000 รูเปียร์ (IDR) แลกเป็นเงินไทย อยู่ที่ 3.6819 บาท (25.9.53)


เงินตราประจำชาติของประเทศมาเลเซีย คือ 
ริงกิตมาเลเซีย (RM) 
ดอลลาร์มาเลเซีย
 แบ่งเป็น 100 เซ็น 
อัตราแลกเปลี่ยนของริงกิตกับดอลลาร์สหรัฐ   คือ  
RM 3.80 ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ
11.1904 บาท = 1 ริงกิต



สกุลเงิน Philippine peso
เงินเปโซของฟิลิปปินส์ (PHP)
1 ดอลลาร์สหรัฐแลกได้ประมาณ 42.75 เปโซ่
0.7463 บาท = 1 เปโซฟิลิปปินส์

ดอลลาร์สิงคโปร์ เป็นสกุลเงินของประเทศสิงคโปร์

ดอลลาร์สหรัฐแลกได้ประมาณ 1.25 ดอลลาร์สิงคโปร์

24.6159 บาท = 1 ดอลลาร์สิงคโปร์

เงินบาท (ตัวละติน: Baht ; สัญลักษณ์: ฿ ; รหัสสากลตาม ISO 4217: THB) เป็นสกุลเงินตราประจำชาติของประเทศไทย
    30.25 บาท = 1 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์บรูไน (Brunei Dollar) ประมาณ
1.37 / 1 ดอลลาร์สหรัฐ  หรือ ประมาณ
23.98 บาท / 1 ดอลลาร์บรูไน 
บรูไนมีความตกลงแลกเปลี่ยนเงินกับสิงคโปร์ทำให้เงินดอลลาร์บรูไน
 มีมูลค่าเท่ากับเงินดอลลาร์สิงคโปร์ และสามารถใช้แทนกันได้ ่อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทกับดอลลาร์สิงคโปร์ ประมาณ 23.95บาท   / 1 ดอลลาร์สิงคโปร์

ด่ง เวียดนาม คือหน่วยเงินของเวียดนามที่ใช้ในประเทศเวียดนาม อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 400-500 ด่งต่อบาท หรือ ประมาณ 16,000 ด่งต่อดอลลาร์สหรัฐ

กีบ ลาว เป็นหน่วยเงินของประเทศลาว ( อักษรย่อ LAK)
หนึ่งกีบมี 100 อัด ลาว ในปี พ.ศ. 2522 เกิดการ
ปฏิรูปค่าเงินขึ้น โดยเปลี่ยน 100 กีบแบบเก่าให้เท่ากับ
1 กีบในปัจจุบัน
 8,130   กีบต่อ  1  ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ)
 1 บาท  จะแลกได้ประมาณ  500  กีบ

จ๊าด  (Kyat)  เป็นสกุลเงินของประเทศพม่า
กรุงเทพฯ  1 ดอลลาร์สหรัฐ  แลกได้  6.4650 จ๊าด
หรือ  25 - 30 จ๊าด ต่อ 1 บาท

งินกัมพูชาเป็นเงินสกุลเงินเรียล (Riels)
1 เรียล = 1 สตางค์ ,1,000 เรียล = 10 บาท
อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลล่า US ประมาณ 
3,700 - 3,800 เรียล



ภาษาอาเซียนน่ารู้

คำกล่าวทักทาย
(ภาษาอาเซียน)
บรูไน
ซาลามัต ดาตัง
อินโดนีเซีย
ซาลามัต เซียง
มาเลเซีย
ซาลามัต ดาตัง
ฟิลิปปินส์
กูมุสตา
สิงคโปร์
หนีห่าว
ไทย
สวัสดี
กัมพูชา
ซัวสเด
ลาว
สะบายดี
พม่า
มิงกาลาบา
เวียดนาม
ซินจ่าว


วันอังคารที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ช็อก! คลื่นดูดนักท่องเที่ยวเกาหลีลงทะเลกว่าร้อยคน




สำนักข่าวต่างประเทศรายงานที่ชายหาดแฮอึนแด ประเทศเกาหลีใต้ เกิดกระแสน้ำรูปเห็ดหรือ Rip Current ที่ชายหาดในเกาหลีใต้ นักท่องเที่ยวถูกดูดลงทะเลกว่า 143 คน บางคนถูกคลื่นดูดออกจากฝั่งลงทะเลไกลเกือบกิโลเมตร

ตามรายงาน เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัด ทำให้นักท่องเที่ยวกว่า 8 แสนคนเดินทางมาพักผ่อนที่ชายหาดแฮอึนแด ซึ่งเป็นจุดพักร้อนที่มีชื่อเสียงทางชายฝั่งตอนใต้ของเกาหลี ระหว่างหอสังเกตการณ์ชายฝั่งที่ 5 และที่ 7 ได้เกิดคลื่นดูดขนาดใหญ่ เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวกว่า 143 คนถูกดูดลงทะเล กว่า 66 คนถูกคลื่นดูดออกจากฝั่งไกลถึง 70-80เมตร ความเร็วขึ้นประมาณ 2 เมตรต่อวินาที ขณะนี้นักท่องเที่ยวได้ถูกช่วยเหลือขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัยไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
                ริบ เคอร์เรนท์ (Rip Current) แปลเป็นภาษาไทยตรงตัวก็คือ "กระแสน้ำรูปเห็ด" หลายคนคนเข้าใจผิดว่า คือ ทะเลดูด ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ เนื่องจากทะเลดูดจะดูดสิ่งต่าง ๆ จากผิวน้ำลงไปใต้น้ำ แต่กระแสน้ำรูปเห็ดนี้จะเกิดขึ้นบนผิวน้ำและใกล้ชายฝั่งมีรูปร่างคล้ายดอกเห็ดจึงเรียกกันว่า Rip Current หรือ กระแสน้ำรูปเห็ด ความเร็วขึ้นอยู่กับความสูงของคลื่น รูปร่างและความลาดชันของฝั่งทะเล รวมทั้งขนาดของตะกอน และสิ่งกีดขวาง โดยจะเกิดขึ้นบริเวณไม่ไกลจากริมฝั่ง
                 กระแสน้ำที่เกิดโดยคลื่นใกล้ฝั่งมีหลายชนิด แต่บริเวณที่ก่อให้เกิด Rip Current คือบริเวณโซนคลื่นแตกจะอยู่บริเวณใกล้ฝั่ง ในเวลาที่คลื่นเดินทางมาใกล้ฝั่งจะมีความสูงมากขึ้น เนื่องจากมันจะต้องเปลี่ยนแปลงรูปร่างเพื่อให้เกิดการสมดุล ถ้าหากความสูงของ คลื่นมากกว่า 7 เท่าของความยาวคลื่น หรือ ความลึกของน้ำมากกว่าครึ่งหนึ่งของความยาวคลื่น คลื่นก็จะแตก เพราะไม่มีความสมดุลของพลังงาน
                   ในประเทศไทยบริเวณที่เกิดการจมน้ำตายจากกระแสน้ำนี้ประจำ ได้แก่หาดสุรินทร์ จังหวัดภูเก็ต เนื่องจากหาดลาดชันมาก ถ้าเปรียบเทียบกับหาดแม่รำพึงแล้วพบว่าหาดแม่รำพึงยังชันน้อยกว่ามาก

วันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

จอมพลังสาวไทย “น้องมาย" สิริวิมล ประมงคล ชวดประเดิมเหรียญแรก

น้องมายพ่ายโสมแดงแค่1กก.ชวดทองแดงโอลิมปิก
จอมพลังสาวไทย “น้องมาย" สิริวิมล ประมงคล ชวดประเดิมเหรียญแรกประเดิมให้ทัพนักกีฬาไทยในโอลิมปิกเกมส์ 2012 อย่าง น่าเสียดาย หลังคว้าอันดับ 4 ในยกน้ำหนักรุ่น 48 กก.หญิง แพ้อันดับ 3 "ชุน ฮวา รยาง" จากเกาหลีเหนือแค่ 1 กก.เท่านั้น ส่วนเหรียญตกเป็นของจอมพลังจากจีน

วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ลุ้นเหรียญแรกจอมพลังสาวไทยพนิดา – สิริวิมล
ทัพนักกีฬาไทย มีลุ้นเหรียญทองแรกจาก 2 จอมพลังสาวไทย ในรุ่น 48 กก. น้องฟ้า” พนิดา คำศรี กับ “น้องมาย” สิริวิมล ประมงคล วันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ด้าน “เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกสมาคม ระบุแม้โอกาสควเาทองมีน้อยแต่ยังลุ้นได้กับเหรียญเงินและทองแดง

การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกของทัพนักกีฬาไทย ประเดิมสนามล่าเหรียญแรกกับ สองสาวจอมพลังทีมชาติไทย  “น้องฟ้า” พนิดา คำศรี กับ “น้องมาย” สิริวิมล ประมงคล  ในรุ่น 48 กก. ที่จะขึ้นยกน้ำหนัก ในเวลา 15.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 21.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย โดยจะทำการแข่งขันกันที่สนามเอ็กซ์เซล กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
 
ด้าน“น้องฟ้า” พนิดา คำศรี จอมพลังสาวสุรินทร์เป็นอีกหนึ่งคนที่น่าจับตามองแต่ปัญหาเดียวของพนิดาก็คือ บางรายการที่ไม่ได้ตั้งความหวังเอาไว้ "น้องฟ้า" จะทำได้ดีแต่รายการใดที่ตั้งใจมากเกินไป สาวน้อยคนนี้กลับทำไม่สำเร็จไปเสียเฉยๆความยากง่ายของการขึ้นไปยืนบนแป้นรับเหรียญของพนิดาก็คือคู่แข่งที่สุดแกร่งของจีนและตุรกีรวมไปถึงคาซัคสถานที่เริ่มจะมาแรงในเวทียกเหล็กโลก
 
ผลงานที่ผ่านมาของ"น้องฟ้า" คือ เหรียญเงิน ชิงแชมป์เอเชีย 2012 เกาหลีใต้,แชมป์ซีเกมส์ครั้งที่ 26 ประเทศอินโดนีเซีย, 2 เหรียญเงิน ชิงแชมป์โลก 2011 ประเทศฝรั่งเศส
 
อีกหนึ่งสาวจอมพลัง“น้องมาย” สิริวิมล ประมงคล ที่เคยสร้างผลงานการคว้าเหรียญทอง เยาวชนโลก ที่กัวเตมาลา ถือว่าเป็นน้องใหม่มาแรก ด้วยรูปร่างที่ค่อนข้างเล็ก และน้ำหยักน้อย จึงมีโอกาสลุ้นเหรียญสูง
 
การดวลพลังในรุ่นนี้ มีทั้งสิ้น 14 คน โดยมหาอำนาจ “จีน” ส่ง 1 คน คือ หวัง หมิง หยวน แชมป์โลก 4 สมัย ปี 2002, 2003, 2005 และ 2009 เป็นตัวเต็งคว้าเหรียญทอง ซึ่งสมาคมยกเหล็กไทย ออกตัวก่อนหน้าแล้วว่า ยากที่จะโค่นลงได้
 
ขณะที่ “เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกสมาคมยกน้ำหนัก กล่าวว่า นักกีฬาไทยยังมีโอกาสไม่น้อย ในการคว้าเหรียญรางวัล โดยลุ้นกับ ญี่ปุ่น และ เกาหลีเหนือ อย่างไรก็ตาม ตนยังเชื่อว่าไม่น่าพลาดที่ คนใดคนหนึ่ง หรือทั้ง 2 คน จะคว้าเหรียญรางวัลเป็นการประเดิมให้กับทัพไทย
 
ด้านนักกีฬาประเภทอื่นที่จะลงชิงชัยเหรียญนั้น ยิงปืน แข่งที่ เดอะรอยัล อาร์ติลเลอรี บาร์รักส์ “เกรียนเอ็กซ์” จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม จะลงชิงชัยปืนสั้นอัดลม 10 เมตรชาย เริ่มรอบคัดเลือก เวลา 18.00 น. (เวลาไทย) หากเข้ารอบชิงชนะเลิศจะแข่งเวลา 21.30 น. โดย จักรกฤษณ์ กล่าวว่า จะทำเต็มที่สุดความสามารถ อะไรก็เกิดขึ้นได้
 
ส่วนประเภทอื่น เรือพาย พุทธรักษา นีกรี ลงแข่งเรือกรรเชียงหญิง 1 คน พายคู่ วันแรก
 
แบดมินตัน แข่งที่เวมบลีย์ อารีนา รอบแรก ชายคู่ บดินทร์ อิสระ กับ มณีพงศ์ จงจิตร ที่อยู่สาย บี นัดแรก พบ มูฮัมหมัด แอชซาน กับ โบนา เซปนาโต จากอินโดนีเซีย เวลา 01.07 น., คู่ผสม  สุดเขต ประภากมล กับ สราลีย์ ทุ่งทองคำ ที่อยู่ในสาย ดี พบ ซู่ เฉิน กับ หม่า จิน มือ 2 ของโลกจากจีน เวลา 00.30 น.
 
เทเบิลเทนนิส ที่เอ็กเซลสเตเดียม หญิงเดี่ยว “น้องแป๋ว” นันทนา คำวงศ์ แข่งหญิงเดี่ยว รอบแรกเวลา 18.00 น. พบกับ เหลย ฮวง เมนเดส จากโปรตุเกส




[24-กรกฏาคม-2555] ในขณะที่ผู้เสพข่าว ไอโฟน 5 (iPhone 5) อย่างเราๆ ท่านๆ ได้รับรู้ว่า ไอโฟน 5 (iPhone 5) นั้น กำลังจะเปิดตัวในปลายเดือนกันยายน - ตุลาคมนี้ และ ไอโฟน 5 (iPhone 5) ได้เริ่มเข้าสู่กระบวนการผลิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จนก่อให้เกิดภาพหลุดบ้าง ภาพ mock up บ้าง ดังที่เว็บไซต์เทคโมบล็อค ได้นำเสนอความเคลื่อนไหว ไอโฟน 5 (iPhone 5) มาโดยตลอด แต่ล่าสุด ดูเหมือนว่า เว็บไซต์ bgr จะเสนอข่าวสวนทางเข้าอย่างจังเลยครับ ซึ่งได้รายงานข่าวว่า ไอโฟน 5 (iPhone 5) นั้น ยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการผลิตแต่อย่างใด และคงเปิดตัวไม่ทันเดือนสิงหาคม ตามที่หลายๆ สื่ออ้างไว้อย่างแน่นอน
โดย bgr อ้างว่า ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าววงใน (อีกแล้ว) ซึ่งระบุว่า ขณะนี้ ไอโฟน 5 (iPhone 5) ยังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบด้านวิศวกรรม หรือ Engineering Verification Test (EVT) เท่านั้น ซึ่งตามกระบวนการผลิตสินค้าของ Apple จะต้องผ่านกระบวนการ EVT แล้วตามมาด้วย DVT (Design Verification Test) หรือการทดสอบด้านการออกแบบก่อนเสมอ โดยในตอนนี้ ไอโฟน 5 (iPhone 5) อยู่ในกระบวนการ EVT ระดับที่ 3 ครับ และยังไม่ได้เข้าตรวจสอบ DVT เลยด้วยซ้ำไป ทำให้ข่าวลือที่บอกว่า ไอโฟน 5 (iPhone 5) จะเปิดตัวในเดือนสิงหาคมนี้นั้น ไม่มีน้ำหนักรองรับในเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ดี bgr ได้ยืนยันสเปค ไอโฟน 5 (iPhone 5) ว่า รองรับ NFC และเครือข่าย 4G LTE อย่างแน่นอน ซึ่งในตอนนี้ Apple กำลังทดสอบหน่วยความจำ RAM ขนาด 1GB กับ ไอโฟน 5 (iPhone 5) อีกด้วย ส่วนกำหนดการเปิดตัว คาดว่าจะเป็นช่วงปลายเดือนกันยายน - ต้นเดือนตุลาคม ที่จะถึงนี้ครับ



วันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

คำคมเกี่ยวกับการศึกษา

คนรุ่นใหม่ไม่ใช่แต่เก่งอย่างเดียว แต่ต้องดีด้วย ไม่ใช่มีแต่ Credentials แต่ต้องมี Human Credentials ด้วย หมายความว่า คนรุ่นใหม่ต้องมีวุฒิของความเป็นมนุษย์ที่วัดไม่ได้ด้วยกระดาษ มีความเอื้อเฟื้อ ความเป็นธรรม และมีคุณธรรมต่อกัน
(ศ.วิทิต มันตาภรณ์)

หน้าที่สำคัญของครูคือ คอยกำกับให้กิจกรรมการเรียนการสอนดำเนินไปอย่างสุภาพให้เกียรติซึ่งกันและกัน และสรุปข้อความรู้ใหม่ที่นักเรียนสร้างขึ้น
(ไพจิตร สดวกการ)

ครูรุ่นใหม่ต้องปฏิรูปตัวเองก่อน ต้องมีคุณวุฒิพิเศษที่สามารถมองเห็นเด็กและสร้างการเรียนรู้ให้เหมาะกับเด็กแต่ละคน
(ประภาภัทร นิยม)

เมื่อใดโรงเรียนละเลยการฝึกอบรมให้คนใช้เหตุผล เมื่อนั้นโรงเรียนกำลังทำลายมนุษยธรรม
(ภิญโญ สาธร)

มนุษย์เราในโลกปัจจุบันนี้มีการศึกษาแต่เพียงสองอย่าง คือรู้หนังสือ รู้อาชีพ ขาดอย่างที่สามคือ การศึกษาที่ทำให้เป็นมนุษย์กันอย่างถูกต้อง
(พุทธทาสภิกขุ)

หัวใจของการปฏิรูปการศึกษาคือ การปฏิรูปการเรียนรู้ หัวใจของการปฏิรูปการเรียนรู้คือ การปฏิรูปจากการยึดวิชาเป็นตัวตั้ง มาเป็นยึดมนุษย์หรือผู้เรียนเป็นตัวตั้ง หรือที่เรียกว่า ผู้เรียนสำคัญที่สุด
(น.พ.ประเวศ วะสี)

เด็กไม่ได้เรียนรู้จากครูเฉพาะในห้องเรียนในเวลาที่ครูสอน แต่เด็กเรียนรู้จากครูในพฤติกรรมของครูที่แสดงออกในโอกาสต่าง ๆ ด้วยการปลูกฝังค่านิยมและทัศนคติเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต จึงเป็นบทบาทของครูทุกคนในโรงเรียน
(พนม พงษ์ไพบูลย์)


วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2555




สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน(13 ก.ค.) อีนา คูนิก ครูโรงเรียนอนุบาลชาวเยอรมันวัย 37 ปี ได้พานักเรียนออกไปศึกษานอกโรงเรียนใกล้ ๆ กับเมืองฮันโนเวอร์ ขณะนั้นเด็กนักเรียนวัย 3 ขวบบังเอิญตกลงไปในหลุม จากนั้นครูสาวได้เสี่ยงชีวิตกระโดดลงไปในหลุมลึก 75 ฟุต (22.86 ม.) เพื่อช่วยชีวิตลูกศิษย์อย่างไม่ลังเลใจ ในที่สุดเด็กได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย
รายงานระบุว่า โชคดีที่ข้างล่างนั้นมีน้ำขัง ประกอบกับมีรากไม้ช่วยชีวิตทั้ง 2 ไว้ได้อย่างปลอดภัย  เพื่อไม่ให้เด็กนักเรียนจมน้ำ ครูสาวได้ยกศรีษะของยานิคอยู่เหนือน้ำ และใช้อุณหภูมิของร่างกายให้ความอบอุ่นแก่ลูกศิษย์ หน่วยกู้ภัยกล่าวว่า อุณหภูมิร่างกายจากเธอได้ช่วยชีวิตเด็กไว้
จากเหตุการณ์ช่วยเหลือลูกศิษย์ในครั้งนี้ อีนาได้รับการยกย่องอย่างแพร่หลาย อีกทั้งยังได้รับเหรียญกล้าหาญเพื่อยกย่องเกียรติคุณความดีที่เธอได้ช่วยเหลือชีวิตลูกศิษย์โดยไม่คำนึงถึงชีวิตของตนเอง

วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2555




ไทยฮิตศัลยกรรม ติดอันดับ 20 ของโลก นิสิตนักศึกษา นิยมทำจมูก
ธุรกิจด้านความงามเติบโตขึ้นเรื่อยๆในสังคมไทย นอกจากเครื่องสำอางค์ เพื่อเสริม เติมแต่งแล้ว ธุรกิจการศัลยกรรม ก็ยังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยธุรกิจศัลยกรรมในประเทศไทยมีมูลค่าสูงถึง 14,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่ร้อยละ 10 ต่อปี ซึ่งสมาคมศัลยกรรมเสริมความงามนานาชาติ เผยผลสำรวจพบว่า ประเทศไทยทำศัลยกรรมมากเป็นอันดับที่ 20 ของโลก  ประเทศที่ทำศัลยกรรมมากที่สุด คือ สหรัฐอเมริกา รองลงมา คือ บราซิล จีน อินเดีย
นอกจากนี้  ผลงานวิจัยดีเด่นเรื่องอิทธิพลความนิยมความสมบูรณ์แบบต่อเจตคติ ในการทำศัลยกรรมเสริมความงาม โดยใช้กลุ่มตัวอย่างจากนิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยของรัฐ 4 แห่ง และเอกชน 4 แห่ง รวมทั้งสิ้น 635 คน แบ่งเป็นภาครัฐ 375 คน และเอกชน 260 คน พบว่า นิสิตนักศึกษามีการทำจมูกมากที่สุด รองลงมาเป็นการยิงเลเซอร์เพื่อลบริ้วรอย การทำตา การเสริมหน้าอก และการผ่าตัดแก้ไขรูปหน้าปัจจัยสำคัญที่ทำให้ศัลยกรรมเสริมความงามได้รับความนิยม เกิดจากความไม่พึ่งพอใจในรูปลักษณ์ของตนเอง

วันอังคารที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ระดมความคิดใบประกอบวิชาชีพครูสำหรับผู้ที่ไม่ได้จบปริญญาทางการศึกษา




ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี ๑๗๔/๒๕๕๕
ระดมความคิดใบประกอบวิชาชีพครูสำหรับผู้ที่ไม่ได้จบปริญญาทางการศึกษา

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา - ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมระดมความคิด เรื่อง "แนวทางการได้มาซึ่งใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูสำหรับผู้ที่ไม่ได้จบปริญญาทางด้านการศึกษา" เมื่อวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๕ ที่ห้องประชุมกำแหง พลางกูร
รมว.ศธ. กล่าวว่า ได้ขอให้ที่ประชุมพิจารณารายละเอียดการปรับแก้ พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๖ มาตรา ๔๔ (ก)(๓) ที่กำหนดคุณสมบัติผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพควบคุม ต้องผ่านการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาตามหลักสูตรปริญญาทางการศึกษาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๑ ปี และผ่านเกณฑ์การประเมินตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตาม ที่คุรุสภากำหนด ทั้งนี้เพื่อเปิดช่องให้ผู้ที่จบสาขาวิชาชีพอื่น เช่น วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ฯลฯ ที่มีความรู้สามารถเป็นครูได้ โดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเรียนปริญญาด้านการศึกษาอีก ๑ ปี

นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวว่า ปัญหาขาดครูโดยเฉพาะในสาขาวิชาขาดแคลน ส่วนหนึ่งมาจาก พ.ร.บ.สภาครูฯ ได้กำหนดให้วิชาชีพครูเป็นวิชาชีพควบคุมที่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ดังนั้น รมว.ศธ.จึงต้องการเสนอให้แก้ไข พ.ร.บ.สภาครูฯ เพื่อเปิดโอกาสให้คนดี คนเก่งเข้ามาประกอบวิชาชีพครูได้ โดยเฉพาะมาตรา ๔๔ (ก)(๓) ที่ต้องปรับแก้ เพื่อเปิดช่องให้คณะกรรมการคุรุสภากำหนดคุณสมบัติผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูให้แตกต่างจากข้อบังคับเดิมได้ หากมีเหตุผล และความจำเป็น หรือหากแก้กฎหมายไม่ได้ เพราะอาจมีขั้นตอนยุ่งยาก และต้องใช้เวลานาน ก็อาจจะออกเป็นกฎ หรือประกาศ ศธ.เพื่อให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว ซึ่งสภาการศึกษาจะรวบรวมความคิดเห็นจากหน่วยงานและบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเสนอ รมว.ศธ.ภายใน ๑ เดือน

สำหรับมาตราที่เกี่ยวข้องในการปรับแก้ พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๖ มีดังนี้

มาตรา ๔๔ ได้กำหนดให้ผู้ขอใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพควบคุม ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้ (๑) มีอายุไม่ต่ำกว่า ๒๐ ปีบริบูรณ์ (๒) มีวุฒิปริญญาทางการศึกษา หรือเทียบเท่า หรือมีคุณวุฒิอื่นที่คุรุสภารับรอง และ (๓) ผ่านการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาตามหลักสูตรปริญญาทางการศึกษาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๑ ปี และผ่านเกณฑ์การประเมินปฏิบัติการสอนตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่คณะกรรมการคุรุสภากำหนด โดยลักษณะต้องห้าม มีดังนี้ (๑) เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสียหรือบกพร่องในศีลธรรมอันดี (๒) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ (๓) เคยต้องโทษจำคุกในคดีที่คุรุสภาเห็นว่าอาจนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ

มาตรา ๔๕ การขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต การกำหนดใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต การขอรับใบแทนใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในข้อบังคับของคุรุสภา ซึ่งผู้ขอรับใบอนุญาต ผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตหรือผู้ขอรับใบแทนใบอนุญาต ซึ่งคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพพิจารณาวินิจฉัยไม่ออกใบอนุญาต ไม่ต่ออายุใบอนุญาต หรือไม่ออกใบแทนใบอนุญาตตามวรรคหนึ่ง อาจอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อคณะกรรมการคุรุสภาภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งการไม่ต่อใบอนุญาต หรือการไม่ออกใบแทนใบอนุญาตไม่ตัดสิทธิผู้ขอที่จะประกอบวิชาชีพที่ได้รับอนุญาตต่อไป ทั้งนี้ จนกว่าคณะกรรมการคุรุสภาจะได้มีคำวินิจฉัยถึงที่สุด

วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2555




สำหรับ 7 หลักคิดในเชิงบวก ที่สามารถหยิบมาเป็นยาชูกำลังใจในยามท้อแท้ได้อย่างดีเยี่ยม โดยใน 7 หลักคิด มีข้อคิดดีๆ อีก 7 ข้อ เป็นพลังมหัศจรรย์ของ 7×7 ได้แก่
1. ความคิดดีๆ เป็นที่มาแห่งความสุข แน่นอนว่าเมื่อเรามีความคิดดีๆ โลกก็จะดีตามอย่างที่เราคิด ดังที่ท่านว่าไว้ในหนังสือเล่มนี้ว่า "โลกเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับว่าเราใส่แว่นตาสีอะไรมองโลก หากมองโลกในแง่ดี ชีวิตมีแต่สิ่งรื่นรมย์ หากมองโลกในแง่ร้าย ชีวิตมีแต่ความวุ่นวายและทุกข์ระทม"
2. ปัญญาดีย่อมมีความสุข คนมีปัญญาย่อมใช้ปัญญาในการแก้ปัญหาเพื่อให้พ้นทุกข์ ดังนั้น สำหรับคนมีปัญญา วิกฤตอยู่ไหน ปัญญาอยู่นั่น ส่วนคนด้อยปัญญา โอกาสอยู่ไหน วิกฤตอยู่นั่น จงเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนปัญหาให้เป็นปัญญา เปลี่ยนอุปสรรคเป็นอุปกรณ์
3. ชีวิตของคนดี คือชีวิตที่มีความสุข ดังท่านว่า ดอกไม้หอมได้บางดอก แต่มนุษย์หอมได้ทุกคน หากเขาเป็นคนดี กลิ่นดอกไม้แม้หอมขนาดไหน ก็หอมได้แต่ตามลมเท่านั้น ส่วนกลิ่นความดีของคนดีนั้น หอมหวนทวนลม ฟุ้งกระจายไปในทิศทั้งสี่ ดอกไม้ผลิบานแล้วไม่นานก็ร่วงโรย แต่ความดีของคนนั้น สถิตเป็นนิรันดร์เหนือกาลเวลา
4. ปฏิสัมพันธ์ดีก็มีความสุข ซึ่งเป็นการเลือกคบมิตร โลกนี้มีมิตรอยู่ 3 ประเภทคือ 1. ปาปมิตร เพื่อนชั่ว จงอย่าคบ 2. กัลยาณมิตร เพื่อนดี จงคบ 3. พันธมิตร เพื่อนที่ผูกพันกันด้วยผลประโยชน์ จงระวัง
5. ทำงานดีก็มีความสุข ท่านว่าไว้ คนจำนวนมากเป็นทุกข์ขณะทำงาน แต่เบิกบานเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ โดยหารู้ไม่ว่า ในหนึ่งสัปดาห์มีเสาร์-อาทิตย์แค่สองวัน จงเป็นสุขขณะทำงาน จงเบิกบานขณะหายใจ
6. มองโลกในแง่ดี ชีวิตมีความสุข ดังผู้รู้ท่านหนึ่งกล่าวว่า "ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้มันถูกอยู่แล้ว มีแต่ความเห็นของเราเท่านั้นที่ผิด ใครทำความเข้าใจคำกล่าวนี้ได้อย่างลึกซึ้ง คนนั้นจะไม่ทุกข์ และเขาจะไม่หวั่นไหว ในความผันแปรของชีวิต สิ่งใดเกิดขึ้นมาเขาจะอุทานอยู่เสมอว่า "มันเป็นเช่นนั้นเอง"
7. ครอบครัวดีทวีความสุข ครอบครัวคือพื้นฐานสำคัญของชีวิต บุตรธิดาคืออนุสาวรีย์ของพ่อแม่ หากลูกเป็นคนดี อนุสาวรีย์ของพ่อแม่ก็งดงาม หากลูกเลวทราม อนุสาวรีย์ของพ่อแม่ก็อัปลักษณ์
ขอขอบคุณ ข้อคิดดีๆ จาก : พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ว.วชิรเมธี

วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ครูที่ดี คืออะไร


ให้แสดงความคิดเห็นในรายวิชา การฝึกประสบการวิชาชีพครู 2

ครูคือใคร

ครูคือใคร.......

ใครคือครู ครูคือใคร ในวันนี้ 
ใช่อยู่ที่ ปริญญา มหาศาล 
ใช่อยู่ที่ เรียกว่า ครูอาจารย์ 
ใช่อยู่นาน สอนนาน ในโรงเรียน

ครูคือผู้ ชี้นำ ทางความคิด
ให้รู้ถูก รู้ผิด คิดอ่านเขียน
ให้รู้ทุกข์ รู้ยาก รู้พากเพียร
ให้รู้เปลี่ยน แปลงสู้ รู้สร้างงาน

ครูคือผู้ ยกระดับ วิญญาณมนุษย์
ให้สูงสุด กว่าสัตว์ เดรัจฉาน
ปลุกสำนึก สั่งสม อุดมการณ์
มีดวงมาน เพื่อมวลชน ใช่ตนเอง

ครูจึงเป็น นักสร้าง ผู้ใหญ่ยิ่ง
สร้างคนจริง สร้างคนกล้า สร้างคนเก่ง
สร้างคนให้ ได้เป็นตัว ของตัวเอง
ขอมอบเพลง นี้มา บูชาครู

...เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์...

วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ไขความหมายสิ่งมงคลวันไหว้ครู

วันไหว้ครูเวียนมาอีกปีแล้ว น้องๆหลายคนรู้แค่ว่าวันนี้ต้องนำดอกไม้ไปไหว้ครู ซึ่งถ้าจะให้ครบ ก็ต้องมี ทั้งดอกมะเขือ หญ้าแพรก ดอกเข็ม ข้าวตอก แต่น้องๆรู้ไหมว่าดอกไม้ที่เอาไปไหว้คุณครูนั้น แต่ละชนิดมีความหมายทีดีทั้งนั้น
   ดอกมะเขือ เป็นดอกที่โน้มต่ำลงมาเสมอ ไม่ได้เป็นดอกที่ชูขึ้น คนโบราณจึงกำหนดให้เป็นดอกไม้สำหรับไหว้ครู ไม่ว่าจะเป็นครูดนตรี ครูมวย ครูสอนหนังสือ ก็ให้ใช้ดอกมะเขือนี้ เพื่อศิษย์จะได้อ่อนน้อมถ่อมตนพร้อมที่จะเรียนวิชาความรู้ต่างๆ นอกจากนี้มะเขือยังมีเมล็ดมาก ไปงอกงามได้ง่ายในทุกที่ เช่นเดียวกับหญ้าแพรก
 หญ้าแพรก เป็นหญ้าที่เจริญงอกงาม แพร่กระจายพันธ์ ไปได้อย่างรวดเร็วมาก หญ้าแพรกดอกมะเขือจึงมีความหมายซ่อนเร้นอยู่ คนโบราณจึงถือเอาเป็นเคล็ดว่า ถ้าใช้หญ้าแพรกดอกมะเขือไหว้ครูแล้ว สติปัญญาของเด็กจะเจริญงอกงามเหมือนหญ้าแพรกและ ดอกมะเขือนั่นเอง
 ดอกเข็ม เพราะดอกเข็มนั้นมีปลายแหลม สติปัญญาจะได้แหลมคมเหมือนดอกเข็ม และก็อาจเป็นได้ว่า เกสรดอกเข็มมีรสหวาน การใช้ดอกเข็มไหว้ครู วิชาความรู้จะให้ประโยชน์กับชีวิต ทำให้ชีวิตมีความสดชื่นเหมือนรสหวานของดอกเข็ม
 ข้าวตอก เป็นสัญลักษณ์ของความมีระเบียบวินัย แม้ว่าโดยธรรมชาติแล้วคนเรามักจะมีความซุกซน ความเกียจคร้าน เป็นสมบัติมากบ้าง น้อยบ้างก็ตาม ตาเมื่อเขามีความต้องการศึกษาหาความรู้ เขาก็ต้องรู้จักควบคุมตนเองให้อยู่ในกรอบ ในระเบียบหรือในกฎเกณฑ์ที่สถาบันได้กำหนดไว้ ใครก็ตามหากตามใจตนเอง ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ บุคคลนั้นก็จะเป็นเหมือนข้าวเปลือกที่ถูกคั่ว แต่ไม่มีโอกาสได้เป็นข้าวตอก

วันศุกร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ย้อนรอยกำเนิดโลก


  โลกที่เราอาศัยอยู่นั้นมาจากไหน ชิวิตอุบัติมาได้อย่างไร ลมฟ้าอากาศ น้ำ ภูเขา ทะเล และมหาสมุทร เหล่านี้มีความสำคัญแก่เราเพียงใด ติดตามได้เลยครับ
มหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก
    
   สมัยดึกดำบรรพ์มนุษย์จะมองโลกทุกๆด้านเป็นสิ่งน่าฉงนสนเท่ห์ และแปลกประหลาดไปทั้งหมด ไม่ว่าจะแหงนหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้า หรือมองดูสภาวการณ์รอบๆตัว จะพบแต่สิ่งเร้นลับของปรากฎการณ์ต่างๆทั้งสิ้น มนุษย์จึงได้เริ่มยุคของการเสาะแสวงหาความจริงเกี่ยวกับความลึกลับของโลกนี้ตลอดมา และชั่วระยะเวลาอันไม่นานมนุษย์ก็สามารถศึกษาเรื่องราวต่างๆ และเข้าใจถูกต้องมากขึ้น ทั้งนี้นับว่าเป็นโชคดีอย่างยิ่งของชีวิตมนุษย์ ที่มีกระบวนการพัฒนาการเจริญก้าวหน้าได้รวดเร็วยิ่งกว่าสัตว์ทั้งหลาย
         เริ่มแรกของการสังเกตเกี่ยวกับโลกและท้องฟ้า ซึ่งปัจจุบันเรายังไม่ทราบแน่ชัดว่า เขาเหล่านั้นมีความเห็นและความรู้สึกไปในทำนองใดหรือด้านใด บางทีอาจจะมองพื้นดินและท้องฟ้า เช่นเดียวกับชาวอียิปต์โบราณ ที่ให้ความคิดว่าโลกนี้เป็นห้องใหญ่ห้องหนึ่ง แผ่นดินเป็นพื้นของห้อง ท้องฟ้าอันกว้างใหญ่เป็นเพด้านที่ค้ำไว้ด้วยเสาใหญ่ 4 ต้น และแขวนไว้ด้วยอำนาจประหลาดของพระเจ้า มีดวงดาวที่ทอแสงระยิบระยับเป็นตะเกียง ดังนี้ก็อาจเป็นได้
        
 ความนึกคิดในทำนองนี้คงฝังอยู่ในความรู้สึกของมนุษย์สมัยนั้นมาตลอด แม้กระทั่งเมื่อ 2-3 ร้อยปีมานี้ คนส่วนมากก็เข้าใจว่าโลกนี้มีลักษณะหรือสัณฐานแบน มีมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ล้อมรอบ มีดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านทางเบื้องบนทุกวัน แล้วสรุปเอาว่าโลกเป็นศูนย์กลางของจักรวาล โดยมีดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ดวงดาวต่างๆหมุนเวียนอยู่รอบๆ
        
 แต่ในปัจจุบันนี้ ข้อเท็จจริงและการค้นคว้าตรวจสอบ เป็นที่รับรองต้องกันแล้วว่าโลกมิได้เป็นศูนย์กลางของจักรวาล หากเป็นดาวเคราะห์และเป็นบริวารดวงหนึ่งของดวงอาทิตย์ และแม้ดวงอาทิตย์เองก็มิได้เป็นศูนย์กลางของจักรวาลทั้งหมด เป็นเพียงกลุ่มดาวเล็กๆ เท่านั้น ในจำนวนกลุ่มดาวทั้งหลายที่เรามองเห็นเป็นแถบ อยู่ในท้องฟ้าเป็นแถบหนาพาดไปตามท้องฟ้านั้น ส่วนที่หนาแน่นที่สุด และเห็นได้ชัดเจนที่สุด เรียกว่า ทางช้างเผือก (Milky Way)
      
นอกจากนั้น เรายังรู้ต่อไปอีกว่า โลกนี้มิได้หยุดนิ่งกับที่ แต่หมุนไปรอบๆดวงอาทิตย์คล้ายลูกข่าง ด้วยความเร็ว 1000 ไมล์ต่อชั่วโมง ที่บริเวณเส้นศูนย์สูตร และยังโคจรเป็นรูปวงรี ด้วยความเร็ว 20 ไมล์ต่อวินาที เพราะการหมุนเวียนรอบตัวเอง และความหนาแน่นของโลกเป็นเหตุที่ทำให้โลกเกิดแรงดึงดูดขึ้น ที่เราเรียกว่า แรงโน้มถ่วงของโลก (Gravity) นั่นเอง ซึ่งเพราะอำนาจของแรงโน้มถ่วงของโลกนี้เองที่ทำให้สรรพสิ่งต่างๆ คงอยู่ในโลกนี้ ไม่หลุดกระเด็นออกไปนอกโลก        โลกเรานี้เป็นเพียงเพียงวัตถุส่วนหนึ่งของจักรวาลเท่านั้น แต่มีลักษณะพิเศษไปกว่าส่วนอื่นๆของจักรวาลนี้ เพราะในระบบสุริยะจักรวาล บางส่วนมีอุณหภูมิถึง 3 ล้าน 5 แสน องศาฟาเรนไฮต์ และบางส่วนที่ว่างเปล่าเย็นเยือกมีอุณหภูมิต่ำถึง - 459 องศาฟาเรนไฮต์ แต่ทว่าโลกเรานี้มีอุณหภูมิและส่วนประกอบอื่นๆที่เหมาะสม ทำให้ชีวิตอุบัติขึ้นมาได้ ในรูปร่างของพืช สัตว์ และมนุษย์ ในส่วนหนึ่งของชีวิตเหล่านี้ ชีวิตที่พัฒนาการขึ้นมาเป็นมนุษย์นับว่าเป็นสิ่งที่เจริญถึงขั้นที่สุด การเกิดของโลก ของสภาวะแวดล้อม ของชีวิตตั้งแต่เล็กที่สุดขึ้นมาจนถึงมนุษย์นั้น กว่าจะสำเร็จมาได้แต่ละขั้นนั้น ต้องเสียเวลานานและเต็มไปด้วยความซับซ้อนอย่างยิ่ง